วันนี้มีนิทานพื้นบ้านภาคกลางมาฝากเพื่อนๆ น้องๆ เรื่อง “ คลองสองพี่น้อง ” ซึ่งเป็นสถานที่จริงอยู่ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นนิทานพื้นบ้านเล่าต่อๆกันมาแต่โบราณว่า…
นานมาแล้ว มีชายสองคนพี่น้องอาศัยอยู่ที่ริมคลองนี้ ทั้งสองพี่น้องมีอาชีพทำสวนทำไร่ มีฐานะค่อนข้างดี และรูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ เป็นที่หมายปองของสาวๆแถวนั้น แต่ชายหนุ่มทั้งสองก็หาสนใจไม่
ต่อมาไม่นานทั้งสองได้ข่าวว่ามีสาวงามสองคนอยู่ในตำบลท้องที่อำเภอบางปลาม้า หญิงทั้งสองนี้สวยงามมาก ชายทั้งสองพี่น้องจึงปราถนาให้นางมาเป็นคู่ครองทั้งสองคน ดังนั้นสองพี่น้องได้จัดเถ้าแก่ไปสู่ขอ
พ่อแม่ฝ่ายหญิงเมื่อได้รับรู้คุณสมบัติของฝ่ายชาย ก็ไม่รังเกียจ และเห็นว่าลูกสาวของตนอายุสมควรที่จะมีคู่ครองได้แล้ว จึงตอบตกลง พ่อของฝ่ายหญิงกล่าวกับเถ้าแก่กล่าวว่า “ เมื่อมาสู่ขอลูกสาวของฉันไปตกไปแต่งทั้งที ก็ขอให้สมกับหน้าตา ฐานะหน่อยหนึ่งจะได้ไหม ” ฝ่ายหญิงต้องการให้จัดขบวนขันหมากลงเรือสำเภาให้ใหญ่โต จะได้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวบ้านแถวนี้
เมื่อถึงวันกำหนดนัด ฝ่ายชายก็จัดเครื่องขันหมากและเครื่องใช้ในการแต่งงานลงเรือสำเภา มีมโหรีปี่พาทย์ครบครันตามที่ฝ่ายหญิงต้องการ เมื่อได้ฤกษ์ขบวนขันหมากพร้อมทั้งเจ้าบ่าวทั้งสอง ก็เริ่มเคลื่อนที่จากคลองสองพี่น้อง ออกไปทางแม่น้ำสุพรรณขึ้นไปทางเหนือมุ่งหน้าไปยังบ้านเจ้าสาว
ขณะที่เรือขบวนขันหมากแล่นไป นักดนตรีก็เล่นดนตรีดังไปตลอดทาง จนถึงตำบลหนึ่ง เมื่อนักดนตรีเปลี่ยนเพลงมาเล่นซอ ชาวบ้านจึงเรียกที่แห่งนี้ว่า “บางซอ” เพราะนักดนตรีไปเล่นซอที่นั่น เมื่อเรือแล่นไปอีกไม่นานเสียงดนตรีก็ยิ่งดังครึกครื้น สนุกสนาน ผู้คนในเรือก็ร้องรำกันไม่ได้หยุดที่แห่งนี้จึงเรียกว่า “บ้านสนุก”
เวลาผ่านไป… เมื่อเรือขบวนขันหมากเลยบ้านสีสนุกไปได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์อย่างไม่คาดคิดขึ้น คือ เรือสำเภาขบวนขันหมาก ที่บรรทุกทั้งคนทั้งเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับงานแต่งงานได้เกิดอุบัติเหตุอับปางล่มลง คนที่มากับขบวนขันหมาก และสิ่งของเครื่องใช้จมหายไปในน้ำหมด ดังนั้น ตรงที่เรือสำเภาล่มนั้นปัจจุบันจึงเรียกว่า “สำเภาทลาย”
เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิด เมื่อเจ้าบ่าวสองพี่น้องจมน้ำตายทั้งคู่ ฝ่ายเจ้าสาวทั้งสอง ได้รอคอยขบวนขันหมากด้วยใจระทึก ต่างคนก็คิดถึงเจ้าบ่าวของตนเองว่าหน้าตาหล่อเหลาแค่ไหน
แต่เมื่อมีคนมาส่งข่าวว่าขบวนเรือขันหมากของสองพี่น้องล่มลงกลางแม่น้ำเสียแล้ว และเจ้าบ่าวของพวกเธอก็จมน้ำตายด้วย หญิงทั้งสองเสียใจมาก เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกหมู่บ้านทีหญิงทั้งสองอยู่ว่า “บ้านแม่หม้าย” ซึ่งปัจจุบันก็ขึ้นอยู่กับอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี
หวังว่าเพื่อนๆ น้องๆ ได้ความรู้และความบันเทิง จากนิทานพื้นบ้านภาคกลางเรื่องนี้กันพอสมควร โอกาสหน้าจะเป็นนิทานเรื่องใดนั้น ติดตามรับชมกันได้จ้า ^__^